วิธีแก้ฟิล์มย่นต้องทำอย่างไร ต้องเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งหรือไม่?

21597 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ฟิล์มรถยนต์เป็นรอยย่นเกิดจากอะไรได้บ้าง

ปัญหาฟิล์มรถยนต์เป็นรอยย่น หรือเกิดรอยยับ เกิดขึ้นได้กับรถยนต์ทุกคันที่ติดฟิล์มกรองแสง ซึ่งเราสามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ กรณีที่ติดฟิล์มมาใหม่ ๆ กับกรณีที่ติดมานานแล้วฟิล์มเสื่อม ซึ่งทั้ง 2 กรณีมีวิธีแก้ฟิล์มย่นดังต่อไปนี้

กรณีติดฟิล์มรถยนต์มาใหม่


ในกรณีที่เราเพิ่งติดฟิล์มรถยนต์มาใหม่ ๆ แล้วฟิล์มรถยนต์เกิดเป็นรอยย่นหรือมีฟองอากาศ เราสามารถแบ่งได้เป็น 2 สาเหตุ ดังนี้ 

ฟองอากาศและรอยคลื่นหลังติดฟิล์มใหม่ ๆ

หากว่าหลังจากไปติดฟิล์มรถยนต์แล้วเกิดเป็นฟองอากาศ หรือรอยคลื่นระหว่างกระจกกับฟิล์ม เช่นนี้ยังไม่ต้องกังวลใจไปว่าเกิดจากความผิดพลาดในการติดฟิล์มที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเปล่า เพราะระหว่างการติดฟิล์มจะมีการใช้น้ำในการติดตั้ง ทำให้บางครั้งมีน้ำขังหรือฟองอากาศหลงเหลืออยู่ ซึ่งปกติจะหายไปหลังจากติดฟิล์มไปแล้วประมาณ 4-21 วัน ซึ่งฟองอากาศประเภทนี้ ไม่เกี่ยวกับมาตรฐานในการติดฟิล์มกรองแสง เพราะแม้ว่าจะเป็นร้านติดฟิล์มมาตรฐานสูงแค่ไหน ก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดฟองอากาศและรอยคลื่นได้เช่นเดียวกัน

สำหรับใครที่ไม่สบายใจอยากหาวิธีแก้ฟิล์มย่นให้ฟองอากาศหายไปไว ๆ ให้เรานำรถไปตากแดดแรง ๆ ประมาณ 3-4 วัน แต่ไม่ควรจอดตากแดดเอาไว้ทั้งวัน ให้จอดสลับร่มกับแดด ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดภาวะฟิล์มช็อกได้ 

ฟองอากาศและรอยคลื่นที่คงอยู่หลัง 21 วัน

หากว่าหลัง 21 วัน ฟองอากาศยังไม่หายไป กรณีนี้อาจเกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดในการติดฟิล์มที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะมีฝุ่น ผม หรือสิ่งสกปรกติดอยู่ ดังนั้น เราจะต้องกลับไปหาร้านที่ติดฟิล์มให้เราเพื่อทำการแก้ไข

ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจติดฟิล์มกรองแสง เราจะต้องสอบถามการรับประกันให้ถ้วนถี่เสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการรับประกันการติดตั้ง และการรับประกันฟิล์มกรองแสง ซึ่งหากเป็นฟิล์มแท้ โดยปกติจะมีใบรับประกันให้อยู่แล้ว เพื่อการันตีคุณภาพ

กรณีติดฟิล์มรถยนต์มานานแล้ว จนฟิล์มรถยนต์เสื่อมสภาพ

อีกกรณีหนึ่งที่ทำให้ฟิล์มรถยนต์เป็นรอยย่น ยับ หรือมีฟองอากาศ ก็คือ การที่ฟิล์มรถยนต์เสื่อมสภาพจากการใช้งานมาแล้วหลายปี 

ปกติฟิล์มรถยนต์จะอยู่ได้นานมากกว่า 5 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของฟิล์มติดรถยนต์ แต่เราสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ว่าฟิล์มรถยนต์ของเราเสื่อมสภาพ และจะต้องเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์ใหม่ ดังนี้

  • ฟิล์มเปลี่ยนสี ลองสังเกตว่าฟิล์มกรองแสงที่เราติดมีสีที่แตกต่างไปจากเดิมหรือไม่ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง หรือโปร่งแสงมากขึ้น 
  • มีฟองอากาศ ปกติแล้วฟิล์มรถยนต์ของเราเรียบสนิทดี แต่อยู่ดี ๆ มีฟองอากาศเกิดขึ้นบริเวณส่วนต่าง ๆ ของกระจกรถ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณว่า เราควรจะต้องเปลี่ยนฟิล์มแล้วนั่นเอง 
  • ฟิล์มรถยนต์เป็นรอยย่น หรือยับ หรือมีลักษณะเป็นคลื่น ไม่เหมือนกับตอนที่ติดฟิล์มมาแรก ๆ ที่เรียบเนียนสนิทไปกับกระจกรถยนต์ 
  • เกิดภาพซ้อนหรือมัว ก่อนหน้านี้เราสามารถมองกระจกได้อย่างชัดเจน แต่พอฟิล์มเริ่มเสื่อมสภาพ อาจจะเกิดภาพซ้อนหรือมัวได้ ให้เรารีบเปลี่ยนฟิล์มโดยด่วนเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นกับกระจกหน้า 
  • มีกลิ่นเหม็น หากว่าเราได้กลิ่นเหม็นแปลก ๆ ระหว่างที่โดยสารรถยนต์ ให้เราลองดมที่ฟิล์มกรองแสง หากว่ามีกลิ่นเหม็น แสดงว่าฟิล์มรถยนต์ของเราเสื่อมสภาพแล้วนั่นเอง 
  • ภายในรถร้อนขึ้น คุณสมบัติอย่างหนึ่งของฟิล์มกรองแสงรถยนต์คือ ช่วยกันความร้อนและรังสียูวี แต่หากเรารู้สึกว่าภายในรถร้อนขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นั่นเป็นสัญญาณว่าเราควรจะเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์

 
วิธีแก้ฟิล์มย่น หรือแก้ฟิล์มยับในกรณีที่ฟิล์มเสื่อมสภาพ ให้เราติดฟิล์มใหม่จะดีที่สุด เพราะฟิล์มที่หมดอายุการใช้งานแล้ว จะเสื่อมคุณภาพและใช้งานได้ไม่เต็ม 100 อีกต่อไป 

สำหรับใครที่ต้องการติดฟิล์มรถยนต์ ขอแนะนำให้มาติดกับ Hi-Kool ฟิล์มมาตรฐานโลก รับประกันคุณภาพทั้งตัวฟิล์มและการติดตั้ง ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามได้ที่ 0-2482-8888 เรามีบริการให้คำปรึกษาในการติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถและการขับขี่ของคุณ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้